หากคุณต้องทำอะไรสักอย่าง แต่ได้แต่คิดแต่ไม่ลงมือทำ คุณจะไม่รู้เลยว่ามันมีปัญหาหรืออุปสรรคอะไร ส่งผลทำให้คุณไม่รู้ว่าจะแก้ไขปัญหามันอย่างไร
เช่นเดียวกับการพัฒนาองค์กรและตัวเอง หากคุณทำได้ตามแผนที่วางไว้ทั้งหมด คุณก็จะได้ปรับเงินเดือน และตำแหน่งตามขั้นตอน แต่ถ้าทำไม่ได้ คุณดำเนินการอย่างไรต่อ
บางคนบอก ” แล้วแต่หัวหน้าจะสั่ง ” , “ ก็ทำตามเป้าหมายเดิม “ , “ไม่เป็นไร เดี่ยวมีคนมาทำแทน”
ถ้าคุณคิดแบบนี้ก็ไม่ต่างจากบุคคลทั่วไปของค์กรนั้น
หากมองให้ลึกลงไปทรัพยากรทีสำคัญขององค์กร คือ มนุษย์ คงไม่มีองค์กรไหนไม่อยากคนที่ทำงานไม่ได้ประสิทธิภาพ แต่มันเลือกไม่ค่อยได้ เพราะได้พวกเก่งๆไปบริษัทใหญ่ๆ หมดแล้วครับ เหลือรอดมาไม่กี่คน ผมเองคือกลุ่คมที่ต้องพัฒนาตัวเองอย่างมาก เนื่องจาก จบเกรดไม่ดี มหาลัยไม่ดัง ทำให้ต้องดื้นรนกันไป
.
ซึ่งทางออกของระบบพัฒนาคนที่ใช้เครื่องมือบริหาร TPM เป็นทางเลือกนึง ขั้นตอนที่ใช้แก้ไขปัญหาจะมีการวางแผนและพิสูจน์ อย่างเป็นขั้นตอนสามารถทวนสอบได้ เพรากิจกรรม TPM มีเป้าหมายที่ชัดเจน
TPM มีแค่หลักการที่ต้องไปประยุกต์ใช้ ให้เหมาะสมกับองค์กรและตัวคุณเองและลักษณะเด่นของเครื่องมือนี้จะมุ่งเน้นไปด้วยกัน 3 ระดับ ดังนี้
TPM เป็นเครื่องมือในการบริหารธุรกิจ เพื่อมุ่งสู่ World Class Manufacturing (WCM)
โดยเฉพาะการกำจัดความสูญเสีย การป้องกันการเกิดซ้ำ ที่หน้างาน (Genba) การผลิต และการสร้างกลไกเพื่อป้องกันความสูญเสียล่วงหน้า
Part I จะมุ่งเน้น “การลดต้นทุนการผลิต”
Part II จะสร้างบริษัทให้สามารถสร้างผลกำไรโดย “การลดต้นทุนผลิตภัณฑ์”
Part III มุ่งเน้น “พัฒนาและยกระดับกระแสเงินสด (Cash Flow)” ให้ดีขึ้น
จากที่ผมดำเนินการตามหลักการ TPM พบว่า งานที่ลดต้นทุนหรืองานที่กำจัดความสูญเสียเครืองจักร เป็นงานที่สำคัญของทุกองค์กร และองค์กรต่างก็พยายามแย่งตัวกลุ่มคนเล่านี้ ตัวอย่างมีให้เห็นตามการรับสมัครงานทั่วไป ตำแหน่งสูงๆทั้งนั้น ลองไปพิจารณาดูนะครับ
ไม่ยากที่คุณจะเรียนรู้หลักการของ TPM แค่คุณลงมือทำ !!!!
ขอบคุณรูปภาพจาก สสท.
#TPMInstructor
#วิศวกรเค้นประสิทธิภาพ
#Engiperform