How to Improve MTBF & MTTR

MTBF หมายถึง Mean Time Between Failures หมายถึง ระยะเวลาเฉลี่ยก่อนการเสียหายแต่ละครั้ง

MTTR หมายถึง Mean Time to Repair คือ ระยะเวลาเฉลี่ยตั้งแต่เสียหายจนใช้งานได้แต่ละครั้ง

ตัวชี้วัดของส่วนงานวิศวกรรมและช่างซ่อมบำรุงที่เด่น ๆ ที่ TPM สนใจ

         ทำไมต้องวัดค่านี้  เพราะเป็นการวัดสมรรถนะความเชื่อถือได้ ( Reliability Performance) เป็นเวลาเฉลี่ยที่เครื่องจักรสามารถทํางานได้ตามปกติระหวางจุดการทํางาน ซึ่งเนื่องมาจากการบํารุงรักษาเครื่องจักรที่มีสมรรถนะสูงเชื่อถือได้สูง และการวัดค่าสมรรถนะการบํารุงรักษาได้ (Maintainability Performance) ซึ่งสมรรถนะการบํารุงรักษาสมรรถนะการบํารุงรักษาได้วัดจากค่าเฉลี่ยของเวลาในการซ่อมแซมเครื่องจักร

การปรับปรุงด้านเครื่องจักรเป็นศาสตร์ด้านวิศวกรรมที่คุณต้องมีความเข้าใจในเครื่องจักรนั้นๆเป็นอย่างดี ภายใต้แนวความคิดที่ว่า “ จะทำอย่างไรที่ทำให้ ให้เครื่องเครื่องเดินนานและซ่อมได้เร็ว “  โดยแบ่งเป็น 2 แนวทาง ดังนี้

  1. กิจกรรมเพื่อเสริมสร้างเทคโนโลยีและทักษะการบำรุงรักษา มุ่งเน้นกิจกรรมเพื่อขยายระยะเวลาเดินเครื่องจักร (MTBF) และกิจกรรมเพื่อย่นเวลาการซ่อมเครื่องจักร (MTTR) เพื่อสร้างระบบที่เพิ่มผลผลิตและความสูญเสียและของเสียเป็นศูนย์
  2. กิจกรรมเพื่อการบำรุงรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า

PM Concept

สามารถแบ่งการดำเนิน การทำให้เครื่องจักรขัดข้องเป็นศูนย์ 4 เฟส ประกอบไปด้วย 6 ขั้นตอนหลัก ดั้งนี้

ขั้นที่ 1  :  ประเมินสภาพเครื่องจักรและสำรวจสภาพปัจจุบัน

  • สร้างระบบการใช้และบันทึกประวัติเครื่องจักร
  • ประเมินเครื่องจักร : มาตรฐานการประเมิน จัดระบบเครื่องจักรตามความสำคัญและเลือกเครื่องจักรและชิ้นส่วนเพื่อทำ PM หรือ Machine Ranking
  • การตั้งเป้าหมายการบำรุงรักษา (ดัชนี้วัดผล วิธีการวัดที่มีประสิทธิภาพ)

 

ขั้นที่ 2  :  ฟื้นฟูสภาพเสื่อมและปรับปรุงจุดอ่อน  ( ช่วยเหลือการบำรุงรักษาด้วยตนเองและป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำ )

  • ฟื้นฟูสภาพเสื่อม สร้างสภาพพื้นฐาน กำจัดสิ่งแวดล้อมที่มีผลต่อการเสื่อม (Support Autonomous Maintenance: Red Tag Remove)
  • การปรับปรุงจุดอ่อนและปรับปรุงเครื่องจักรเพื่อยืดอายุการใช้งาน ( Kaizen : ECRS )
  • มาตรการป้องกันการเกิดซ้ำของการขัดข้องที่รุนแรง (Breakdown Maintenance)

PM Main Activity

ขั้นที่ 3 :  สร้างระบบการบริหารข้อมูลการบำรุงรักษา

  • สร้างระบบบริหารข้อมูลการขัดข้องและบริหารข้อมูลการบำรุงรักษาเครื่องจักร (Preventive Maintenance)
  • สร้างระบบการบริหารงบประมาณเครื่องจักร
  • การจัดการอะไหล่ และการจัดการเอกสาร

ขั้นที่ 4 :  สร้างระบบการบำรุงรักษาตามคาบเวลา

  • กิจกรรมเตรียมการเพื่อการบำรุงรักษาตามคาบเวลา (Periodic Maintenance)
  • สร้างระบบการบำรุงรักษาตามคาบเวลา เน้นการคัดเลือกเครื่องจักร ชิ้นส่วนประกอบเพื่อการบำรุงรักษา
  • สร้าง ปรับปรุงมาตรฐานและแผนงานซ่อมบำรุง (มาตรฐานวัสดุ มาตรฐานงาน มาตรฐานการตรวจสอบ และมาตรฐานการตรวจรับ) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการซ่อมบำรุงตามคาบเวลา และเพิ่มพูนคุณภาพในการดูแลผู้รับเหมา

 

ขั้นที่ 5 :  สร้างระบบการบำรุงรักษาเชิงพยากรณ์ (Predictive Maintenance)

  • สร้างระบบหรือกระบวนการการบำรุงรักษาเชิงพยากรณ์
  • การคัดเลือกเครื่องจักร และชิ้นส่วนประกอบในการทำการบำรุงรักษาเชิงพยากรณ์และขยายผลการบำรุงรักษาเชิงพยากรณ์ให้มากขึ้น
  • เน้นพัฒนาเทคโนโลยีและใช้เครื่องมือการตรวจวิเคราะห์

 

ขั้นที่ 6 :  ประเมินผลการบำรุงรักษาตามแผนงาน

  • ประเมินผลระบบการบำรุงรักษาตามแผนงาน
  • ประเมินผลการปรับปรุงค่า Reliability จำนวนการขัดข้องและการหยุดเล็กๆ น้อยๆ ค่า MTBF ความถี่ เป็นต้น
  • ประเมินผลการปรับปรุงการบำรุงรักษา อัตราการบำรุงรักษาตามคาบเวลา อัตราการบำรุงรักษาเชิงพยากรณ์ ค่า MTTR เป็นต้น
  • ประเมินผลการลดต้นทุนการบำรุงรักษา การลดต้นทุนการบำรุงรักษา การปรับปรุงการกระจายของค่าซ่อมบำรุง

PM 6 Phase

Cr. รูปการทำให้เครื่องจักรขัดข้องเป็นศูนย์ อ.มณี สุวรรณรัตน์ ที่ปรึกษา WCM

 

#วิศวกรเค้นประสิทธิภาพ

บทความที่เกี่ยวข้อง

10 Step เทพ :Planned Maintenance  : https://bit.ly/2REiV5l

การบำรุงรักษาเชิงประสิทธิผล (Productive Maintenance)  : https://bit.ly/2VfSh3n

 

Posted in UncategorizedTagged